ฮอร์โมนสุขภาพ

การดูแลสุขภาพเป็นศาสตร์และศิลป์ มีองค์ประกอบหลากหลายที่มีความสำคัญต่อการสร้างเสริมสุขภาพและแม้แต่การซ่อมแซมรักษาก็หนีไม่พ้นบทบาทหน้าที่ของฮอร์โมนในร่างกาย ดังนั้นการรักษาด้วยยาเป็นเพียงการรักษาอาการเจ็บป่วยเท่านั้นไม่ใช่รักษาโรค และโรคส่วนใหญ่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยา และข้อเท็จจริงที่หลายคนมองข้ามคือการรักษาโรคด้วยยาหรือการผ่าตัดรวมทั้งการดูแลในห้อง ICU หรือการรักษาที่ต้องการเครื่องมือพิเศษต่างๆนานานั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดภาวะการเจ็บเฉียบพลัน รุนแรงจนเก่อให้เกิดความผิดปกติในการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกาย แต่เมื่อพ้นขีดอันตรายแล้วนั้น การจะรักษาฟื้นฟู สร้างเสริมซ่อมแซมส่วนสึกหรอให้กลับมาเป็นปกติหรือใกล้เคียงปกตินั้น ต้องอาศัยการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม ทั้งการกิน การนอนหลับ การออกกำลังกายที่เหมาะสม การลดความเครียด ซึ่งทั้งสี่อย่างนี้เป็นการปรับความสมดุลย์ของฮอร์โมนในร่างกายให้สอดรับกันเพื่อการสร้างสุขภาพที่แข็งแรง

ดังนั้นฮอร์โมนจึงเป็นหัวใจหลักของสุขภาพที่แท้จริง เราดีใจมากที่เพื่อนๆเห็นความสำคัญของสุขภาพผ่านหน้าที่ของฮอร์โมนต่างๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่นำพาให้เพื่อนๆอ่านมาถึงตรงนี้ เรามาทำความรู้จักกับฮอร์โมนที่สำคัญต่อสุขภาพกันเลยครับ
 
ฮอร์โมนสุขภาพในร่างกายแบ่งคร่าวๆเป็นสองชุด ตามช่วงเวลาที่หลั่งในแต่ละวัน(Circardian rhythms)
1.ฮอร์โมนเพื่อการทำงาน ได้แก่ ฮอร์โมนคอร์ทิซอล ฮอร์โมนไธรอยด์ และ testosterone
  • ฮอร์โมนคอร์ทิซอล(Cortisol hormone) หลั่งจากต่อมหมวกไตเพื่อตอบสนองต่อภาวะเครียดในร่างกาย ปกติคอร์ทิซอลจะหลั่งมากที่สุดในตอนเช้าและค่อยๆลดลงในตอนกลางวันจนถึงระดับต่ำสุดในเวลากลางคืน
 
 
  • ฮอร์โมนไธรอยด์(Thyroid hormone) เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากต่อมไธรอยด์และมีความสำคัญอย่างมากต่อการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย ระดับของฮอร์โมนไธรอยด์จะสูงที่สุดในตอนเช้าและค่อยๆลดลงตลอดวัน

  • ฮอร์โมนเพศชาย(Testosterone hormone)

testosterone เป็นฮอร์โมนเพศชายสร้างบุคลิกลักษณะทางเพศของเพศชายสร้างจากอัณฑะของเพศชาย แต่ก็มีการสร้างได้บ้างเล็กน้อยในเศหญิง ระดับสูงสุดในตอนเช้าและค่อยๆลดลงจนต่ำสุดในตอนกลางคืน

 
2.ฮอร์โมนเพื่อการสร้างเสริมซ่อมแซมสุขภาพ
  • โกรทฮอร์โมน (Growth hormone) 

โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone)หรือฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโต สามารถออกฤทธิ์ โดยตรงต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง โดยไม่ต้องเกี่ยวข้องกับIGF-1  มันสามารถจับกับตัวรับของมันเองบนพื้นผิวของเซลล์ในเนื้อเยื่อเป้าหมาย ซึ่งนำไปสู่การกระตุ้นและส่งสัญญาณที่สามารถกระตุ้นการเติบโตของเซลล์ ความแบ่งเซล และเมแทบอลิซึมของเซล

 

ผลกระทบโดยตรงบางประการของ GH ต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง ได้แก่ :

 

การเผาผลาญไขมัน: GH สามารถกระตุ้นการสลายไขมันที่เก็บไว้ (การสลายไขมัน) ในเนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งนำไปสู่การปลดปล่อยกรดไขมันอิสระเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงาน

 

การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ: GH สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตและความแตกต่างของเซลล์กล้ามเนื้อโครงร่าง ทำให้มีมวลและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น

 

การเจริญเติบโตของกระดูก: GH สามารถกระตุ้นการเพิ่มจำนวนของเซลล์กระดูกที่เรียกว่าเซลล์สร้างกระดูก ซึ่งนำไปสู่การเติบโตและการสร้างกระดูกที่เพิ่มขึ้น

 

การทำงานของภูมิคุ้มกัน: GH สามารถเสริมการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน เช่น T-cell และ B-cell  นำไปสู่การเพิ่มความต้านทานต่อการติดเชื้อและโรค

 

ในขณะที่ IGF-1 เป็นตัวกลางที่สำคัญของการออกฤทธิ์ของ GH ต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง แต่GH ยังสามารถออกฤทธิ์โดยตรงกับเซลล์เพื่อสร้างผลกระทบเหล่านี้ได้

  • Insulin-like Grwoth Factor-1(IGF-1)
  • Melatonin เมลาโทนิน
  • อินสุลิน(Insulin)